ผลการประเมินคุณภาพทางประสาทสัมผัสของข้าว 12 สายพันธุ์
การประเมินคุณภาพทางประสาทสัมผัสในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บริโภคช่วยสะท้อนให้เห็นถึงจุดเด่นและจุดด้อยของแต่ละสายพันธุ์ เพื่อการปรับปรุงพันธุ์และการตลาดต่อไป
การประเมินคุณภาพทางประสาทสัมผัสในครั้งนี้ ได้แบ่งการประเมินออกเป็น 6 ด้าน คือ
โดยแต่ละด้านจะมีคะแนนตั้งแต่ 1-10 คะแนน นอกจากนี้ การประเมินคุณภาพทางประสาทสัมผัสครั้งนี้ ยังสอบถามถึงข้อความที่น่าสนใจและความยินดีที่จะจ่ายของผู้บริโภคด้วย
ทั้งนี้ การประเมินคุณภาพทางประสาทสัมผัสครั้งนี้ เป็นการทดสอบกับกลุ่มผู้บริโภคในกรุงเทพมหานคร จึงไม่ใช่ตัวแทนของทั้งประเทศ
โดยการทดสอบครั้งนี้ มีพันธุ์ข้าวขาวเปรียบเทียบ 5 สายพันธุ์ ได้แก่
พันธุ์ข้าวสี เปรียบเทียบ 5 สายพันธุ์ ได้แก่
และมีพันธุ์ข้าวอื่นๆ ที่ทดสอบแยกกัน อีก 10 สายพันธุ์ ได้แก่
ผลการทดสอบทางประสาทสัมผัสข้าวสี (ผู้ทดสอบ 30 ราย) ปรากฏว่า
พันธุ์ข้าว |
รูปลักษณ์ภายนอก |
สี |
กลิ่น |
ความนุ่ม |
รสชาติ |
ความชอบรวม |
ไรซ์เบอรี่ |
8.20 |
8.73 |
8.10 |
8.27 |
8.27 |
8.20 |
ซุปเปอร์ไรซ์ |
8.10 |
8.17 |
7.73 |
7.87 |
7.77 |
7.83 |
หอมมะลิแดง |
8.14 |
8.10 |
7.73 |
7.70 |
7.73 |
7.57 |
หอมล้านนา |
8.63 |
8.67 |
8.45 |
8.31 |
8.27 |
8.20 |
ขาหนี่ |
8.33 |
8.30 |
8.21 |
7.69 |
7.62 |
7.60 |
ผลการทดสอบจากตารางแสดงว่า ข้าวหอมล้านนา และข้าวไรซ์เบอรี่ เป็นข้าวที่ผู้ทดสอบให้คะแนนคุณภาพทางประสาทสัมผัสดีที่สุด อันดับ 1 และ 2 ในเกือบทุกด้าน และมีคะแนนใกล้เคียงกันมาก แสดงให้เห็นว่า ผู้ทดสอบชอบข้าวไรซ์เบอรี่ และข้าวหอมล้านนา เป็นลำดับแรก ยกเว้น ในเรื่องกลิ่น ที่ผู้ทดสอบชอบข้าวขาหนี่เป็นลำดับที่ 2 รองจากข้าวหอมล้านนา
ผลการทดสอบทางประสาทสัมผัสของข้าวสีทั้ง 5 พันธุ์ สามารถแสดงเป็นกราฟได้ดังนี้
เมื่อสอบถามถึงราคาที่เหมาะสม (หรือความยินดีที่จะจ่าย) ข้าวสีในชนิดนั้นๆ พบว่า ผู้ทดสอบให้ราคาข้าวหอมล้านนาสูงที่สุดคือ 58.60 บาท/กก. ตามมาด้วยข้าวไรซ์เบอรี่ 56.93 บาท/กก. ข้าวซุปเปอร์ไรซ์ 57.17 บาท/กก. ข้าวขาหนี่ 55.63 บาท/กก. และข้าวหอมมะลิแดง 51.73 บาท/กก. ตามลำดับ
ผลการทดสอบทางประสาทสัมผัสข้าวขาว (ผู้ทดสอบ 32 ราย) ปรากฏว่า
พันธุ์ข้าว |
รูปลักษณ์ภายนอก |
สี |
กลิ่น |
ความนุ่ม |
รสชาติ |
ความชอบรวม |
ข้าวมะรูนิ |
6.59 |
7.34 |
6.09 |
6.50 |
6.31 |
6.59 |
ข้าวอัลฮัมดูลิลละห์ |
6.41 |
6.41 |
5.91 |
6.03 |
6.03 |
6.28 |
ข้าวหอมไชยา |
7.84 |
7.75 |
7.69 |
7.91 |
8.06 |
8.13 |
ข้าวปกาอำปึล |
7.41 |
7.16 |
7.22 |
8.22 |
7.97 |
8.00 |
ข้าวหอมมะลิ 105 |
8.33 |
8.25 |
7.50 |
8.44 |
8.56 |
8.10 |
ผลการทดสอบทางประสาทสัมผัสแสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคชอบข้าวหอมมะลิ และข้าวหอมไชยาเป็นลำดับแรก โดยข้าวหอมไชยามีคะแนนเหนือข้าวหอมมะลิในด้านกลิ่นและความชอบรวม (ส่วนในด้านอื่นๆ ข้าวหอมมะลิ 105 มีคะแนนการประเมินทางประสาทสัมผัสมาเป็นอันดับแรก) ส่วนข้าวปกาอำปึลมีคะแนนด้านความนุ่มมาเป็นอันดับที่ 2 รองจากข้าวหอมมะลิ และมีคะแนนความชอบรวมเป็นอันดับที่ 3 ส่วนข้าวมะรูนิ และข้าวอัลฮัมดูลิลละห์ ซึ่งเป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองจากภาคใต้ ยังมีคะแนนไม่สูงนัก เนื่องจากเป็นพันธุ์ข้าวที่ผู้ทดสอบในกรุงเทพมหานครไม่คุ้นเคย
ผลการทดสอบทางประสาทสัมผัสสามารถแสดงเป็นกราฟได้ดังนี้
และเมื่อสอบถามถึงราคาที่เหมาะสมหรือความยินดีที่จะจ่ายของผู้บริโภค พบว่า ผู้ทดสอบยินดีจ่ายให้ข้าวหอมมะลิมากที่สุดที่ 57.25 บาท/กก. ตามมาด้วยข้าวปกาอำปึล 53.34 บาท/กก. ข้าวหอมไชยา 54.17 บาท/กก. ข้าวมะรูนิ 43.47 บาท/กก. และข้าวอัลฮัมดูลิลละห์ 42.33 บาท/กก. ตามลำดับ ซึ่งค่อนข้างสอดคล้องกับการประเมินคุณภาพทางประสาทสัมผัส
1. ข้าวลืมผัว เพชรบูรณ์ (จำนวนผู้ทดสอบ 24 ราย)
จุดเด่นของคุณภาพทางประสาทสัมผัส
จุดที่สามารถนำไปปรับปรุง คือ ความนุ่ม (6.96 คะแนน)
คำสำคัญในการสื่อสารการตลาด คือ สารต้านอนุมูลอิสระ
ความยินดีที่จะจ่ายของผู้บริโภค เท่ากับ 63.06 บาท/กก.
2. ข้าวเหนียวแดง (จำนวนผู้ทดสอบ 34 ราย)
จุดเด่นของคุณภาพทางประสาทสัมผัส
คำสำคัญในการสื่อสารการตลาด ได้แก่ สารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามิน E
ความยินดีที่จะจ่ายของผู้บริโภคเท่ากับ 79.84 บาท/กก.
3. ข้าวเหนียวก่ำน้อย (จำนวนผู้ทดสอบ 28 ราย)
จุดเด่นของคุณภาพทางประสาทสัมผัส
จุดที่สามารถนำไปปรับปรุง คือ ความนุ่ม (7.15 คะแนน)
คำสำคัญในการสื่อสารการตลาด คือ คุณค่าทางโภชนาการ
ความยินดีที่จะจ่ายของผู้บริโภคเท่ากับ 82.63 บาท/กก.
4. ข้าวธัญสิริน (จำนวนผู้ทดสอบ 32 ราย)
จุดเด่นของคุณภาพทางประสาทสัมผัส
จุดที่สามารถนำไปปรับปรุง
คำสำคัญในการสื่อสารการตลาด คือ ชื่อพันธุ์พระราชทาน
ความยินดีที่จะจ่ายของผู้บริโภคเท่ากับ 55.88 บาท/กก.
5. ข้าวสังข์หยด (จำนวนผู้ทดสอบ 24 ราย)
จุดเด่นของคุณภาพทางประสาทสัมผัส
จุดที่สามารถนำไปปรับปรุง
คำสำคัญในการสื่อสารการตลาดคือ ชะลอวัย
ความยินดีที่จะจ่ายของผู้บริโภค เท่ากับ 67.21 บาท/กก.
6. ข้าวเจ้าหอมนครชัยศรี (จำนวนผู้ทดสอบ 22 ราย)
จุดเด่นของคุณภาพทางประสาทสัมผัส
จุดที่สามารถนำไปปรับปรุงคือ กลิ่น (7.00 คะแนน)
คำสำคัญในการสื่อสารการตลาด คือ สายพันธุ์พื้นเมือง
ความยินดีที่จะจ่ายของผู้บริโภค เท่ากับ 53.00 บาท/กก.
7. ข้าวเจ้าโสมมาลี สกลนคร (จำนวนผู้ทดสอบ 24 ราย)
จุดเด่นของคุณภาพทางประสาทสัมผัส
คำสำคัญในการสื่อสารการตลาดคือ นุ่ม หอม เหนียว
ความยินดีที่จะจ่ายของผู้บริโภค เท่ากับ 60.90 บาท/กก.
8. ข้าวหอมนิล (จำนวนผู้ทดสอบ 25 ราย)
จุดเด่นของคุณภาพทางประสาทสัมผัส
คำสำคัญในการสื่อสารการตลาด คือ โปรตีน
ความยินดีที่จะจ่ายของผู้บริโภค เท่ากับ 64.00 บาท/กก.
9. ข้าวพันธุ์บือพะโด่ะ (จำนวนผู้ทดสอบ 35 ราย)
จุดเด่นของคุณภาพทางประสาทสัมผัส
จุดที่สามารถนำไปปรับปรุง คือ กลิ่น (7.20 คะแนน)
คำสำคัญในการสื่อสารการตลาด คือ พันธุ์ของชาวปกากะญอ
ความยินดีที่จะจ่ายของผู้บริโภคเท่ากับ 54.54 บาท/กก.
10. ข้าวบือโคคี (จำนวนผู้ทดสอบ 32 ราย)
จุดเด่นของคุณภาพทางประสาทสัมผัส
จุดที่สามารถนำไปปรับปรุง
คำสำคัญในการสื่อสารการตลาด เหนียวหนึบ
ความยินดีที่จะจ่ายของผู้บริโภคเท่ากับ 53.58 บาท/กก.
เดชรัตน์ สุขกำเนิด
04 มกราคม 2563